Page 12 - พิพิธภัณฑ์ดิจิทัลกลุ่มชาติพันธ์ในล้านนา
P. 12





2




เจ็บป่วยที่ครอบคลุมทั้งในส่วนของโลกทัศน์ความเชื่อท้องถิ่นดั้งเดิมและโลกทัศน์แบบสมัยใหม่ ซึ่งถือ

ว่ามีอิทธิพลต่อผู้คนในสังคม ดังนั้นภูมิปัญญาในการรักษาพื้นบ้านในปัจจุบันจึงแตกต่างจากอดีต
และมีลักษณะที่ผสมผสานองค์ความรู้หลายชุดเข้าด้วยกัน กลุ่มผู้รักษาพื้นบ้านซึ่งเป็นผู้ที่ให้ค าอธิบาย

และให้การรักษาความเจ็บป่วย จึงเป็นผู้ที่มีความส าคัญในด้านการเป็นผู้ผลิตองค์ความรู้หรือ

ภูมิปัญญาทางการแพทย์
จากลักษณะดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าภูมิปัญญาในการรักษาพื้นบ้านเป็นแหล่งข้อมูลที่

ส าคัญแห่งหนึ่งของประเทศ การน าข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมาพัฒนาเป็นข้อมูลดิจิทัลและจัดเก็บเป็น
ระบบคลังข้อมูล ซึ่งนอกจากจะช่วยท าให้ข้อมูลนั้นคงอยู่ได้แม้เวลาจะผ่านไปยังสามารถน าข้อมูล

ดิจิทัลนี้มาสกัดเป็นองค์ความรู้ใหม่ หรือบูรณาการประยุกต์ใช้ประโยชน์ในด้านอื่นได้แล้ว ยังช่วยให้

ผู้ใช้งานสามารถให้เข้าถึงได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว ก่อให้เกิดคุณประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ทั้งการ
เข้าใจรากเหง้าของสังคมภาคเหนือของไทย การอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น การเรียนรู้ศึกษาวิจัย

การส่งเสริมและการพัฒนาหรือการต่อยอดให้เกิดประโยชน์เชิงสังคม เชิงเศรษฐกิจ ทั้งในระดับชุมชน
ท้องถิ่น ภูมิภาค ระดับประเทศ และนานาชาติ ได้อย่างมากมายในวงกว้าง



วัตถุประสงค์กำรวิจัย
1. เพื่อส ารวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลความรู้ภูมิปัญญาในด้านการรักษาพื้นบ้านโดยหมอ

พื้นบ้านล้านนา
2. เพื่อพัฒนาภูมิปัญญาการรักษาพื้นบ้านให้เป็นข้อมูลรูปแบบดิจิทัล

3. เพื่อพัฒนาคลังภูมิปัญญาดิจิทัลกระบวนการรักษาโดยหมอพื้นบ้านล้านนา


ขอบเขตกำรวิจัย

ขอบเขตด้ำนเนื้อหำ
การศึกษาครั้งนี้มุ่งส ารวจ ศึกษา รวบรวมข้อมูลความรู้ภูมิปัญญาในด้านการรักษาพื้นบ้าน

โดยหมอพื้นบ้านล้านนา การพัฒนาภูมิปัญญาการรักษาพื้นบ้านให้เป็นข้อมูลรูปแบบดิจิทัล และการ

พัฒนาคลังภูมิปัญญาดิจิทัลกระบวนการรักษาโดยหมอพื้นบ้านล้านนา


ขอบเขตประชำกำรและกลุ่มเป้ำหมำย
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ หมอพื้นบ้านล้านนา กลุ่มเป้าหมายคือ บุคคลที่สนใจเข้า

เยี่ยมชมคลังภูมิปัญญาดิจิทัล กระบวนการรักษาโดยหมอพื้นบ้านล้านนา


ขอบเขตด้ำนพื้นที่
พื้นที่การศึกษาครั้งนี้คือ จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่ จังหวัดน่าน และจังหวัดแม่ฮ่องสอน
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17